เคล็ดลับการหาพนักงาน(แนวใหม่)
April 26, 2019GloCALization
April 26, 2019ผ่านไปเกือบครึ่งปีแล้วนะคะ เราลองมาดูกันว่าแนวโน้มด้าน HR สำหรับปีนี้มีอะไรบ้างและมีอะไรที่เรานำมาใช้แล้ว หรือถ้ายังไม่ใช้วันนี้ก็จะได้วางแผนหรือเริ่มคิดว่าจะใช้มั้ย ใช้แค่ไหนอย่างไรดีนะค่ะ โดยแนวโน้มด้าน HR ของ SHRM (เป็นหน่วยงาน ด้าน HR ที่มีชื่อเสียงระดับโลก) มี 10 เรื่องดังนี้
#1 การหาคนเก่ง (Talent) ที่ใช่ (Find the right talent) การหาคนเก่งที่ใช่ทำได้หลายวิธี ปกติจะใช้แนวทาง 3 B คะ คือ B ที่1 – Buy (การหาคนจากภายนอก ซึ่งมีข้อดีคือ มีทางเลือกค่อนข้างมาก แต่สำหรับตลาดแรงงานไทย ในบางงานจะมีการแย่งตัวกันสูง เช่นงานที่เกี่ยวข้องกับดิจิทอล งาน กลยุทธ์HR เป็นต้น ส่วนข้อเสียคือการปรับเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรอาจเป็นประเด็นสำหรับการหาคนจากภายนอ) B ที่ 2 – Build (คือการสร้างคนจากภายในข้อดีคือ จะฟิตกับวัฒนธรรมองค์กรอยู่แล้ว ข้อเสียคืออาจหาคนที่มีศักยภาพภายในได้ไม่ตรงกับที่ต้องการ) สุดท้าย B ที่ 3 คือการ Borrow (คำนี้เป็นคำค่อนข้างใหม่ หมายถึงการจ้างงานชั่วคราว ไม่ว่าจะในรูปแบบการทำสัญญาจ้าง การจ้างFreelance หรือการ Partner กับคู่ค้า ซึ่งข้อดีคือ ไม่ต้องมีต้นทุนตายตัวจ่ายเฉพาะเมื่อต้องการใช้งาน หรือที่เรียกว่า Pay-on-Demand ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ในการจ้างงาน)
#2 การพัฒนาและปรับเปลี่ยนทักษะพนักงานอย่างเร่งด่วนและหนักหน่วง (Upskills, Reskills, Upskills) ผลจากการปรับเปลี่ยนมากมายโดยเฉพาะการนำ AI มาใช้ในองค์กรมากขึ้นเรื่อยๆ (ประมาณการว่าภายใน20 ปีข้างหน้าจะมีงานที่หายไปมากกว่า 20% และจะมีงานเกิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยมาแทน) ทำให้องค์กรต้องปรับเปลี่ยนงาน ดูว่างานไหนใช้ AI ได้ จะได้ประหยัดต้นทุน งานไหนที่ยังจำเป็นต้องใช้คน แล้วงานที่เหลืออยู่คนจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทักษะอย่างไร ให้พร้อมรองรับความเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเรากำลังพูดถึงการปรับเปลี่ยนทักษะอย่างมากนะคะ (เช่นต้องมีทักษะ ความรู้ในเรื่องดิจิทอลทั้งหลาย ต้องเปลี่ยน mindset ให้เป็นระดับโลกให้ได้ ต้องมีทักษะในการคิดวิเคราะห์หาทางเลือกมากกว่าหนึ่ง เป็นต้น) จากรายงานล่าสุดของ SHRM พบว่า ต่อไปการปรับเปลี่ยนทักษะพนักงานอย่างน้อย 15-20 เท่าจะเป็นเรื่องปกติสำหรับพนักงานที่เป็นมิลลิเนียล ! หน้าที่งาน HR ที่จะเพิ่มความสำคัญขึ้นคือ งาน Learning and Development ซึ่งเป็นตัวขับหลักในเรื่องนี้นะคะ
#3 การเรียนรู้ออนไลน์ (On-Line Learning) ในเมื่อมีการปรับเปลี่ยนทักษะอย่างมหาศาล การเรียนรู้ออนไลน์จึงเป็นเทรนด์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คะ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่ทำอะไรๆทางออนไลน์หมดแล้ว การเรียนหนังสือออนไลน์เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เขาจะนิยมทำ (กว่าการเรียนในคลาส)
#4 การใช้ HR Chatbots บอตคือการใช้โปรแกรมอัตโนมัติสำหรับทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งย่อมาจากโรบอต (robot) แปลว่าหุ่นยนต์ โดยบอตที่เราจะพูดถึงในวันนี้ถูกออกแบบให้ทำงานในโปรแกรมเมสเซนเจอร์ โดยทำหน้าที่ตอบคำถามหรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ตามที่ได้รับการตั้งโปรแกรมขึ้นมา แล้วยังมีบอตอีกประเภทหนึ่งซึ่งทำหน้าที่จำลองการสนทนากับผู้ใช้ โดยมีทั้งที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังพูดคุยกับคู่สนทนาที่เป็นมนุษย์จริงๆ หรือให้ผู้ใช้เลือกบทสนทนาตามที่โปรแกรมกำหนดให้
การใช้ HR Chatbots มักใช้สำหรับการตอบข้อมูลพนักงาน มีรายงานว่าHR ใช้เวลามากกว่า 40% ไปกับการให้ข้อมูลหรือชี้แจงกับพนักงานในเรื่องต่างๆ การนำ HR Chatbots มาใช้จะประหยัดเวลาและต้นทุนของ HR ไปได้มาก
#5 การจ้างงานแบบยีดหยุ่น (Flexible Work Arrangement) การจ้างงานจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นให้เหมาะกับทุกความต้องการของพนักงาน เช่นพนักงานรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องการเดินทาง ไม่ต้องการทำงานเต็มเวลา อยากมีเวลาขายของออนไลน์ด้วย หรือพนักงานที่เป็นคุณแม่ต้องการเวลาดูแลลูกแต่ยังอยากได้เงินเดือน หรือพนักงานอาวุโสที่เกษียณอายุแต่ที่มีความรู้ความสามารถที่องค์กรยังพัฒนา หรือหามาทดแทนไม่ได้ เป็นต้น
การจ้างงานจึงต้องปรับให้เหมาะสมกับความต้องการทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานแบบ Part-time แบบสัญญาจ้างงาน แบบทำงานที่บ้าน แบบเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น เป็นต้น ทราบมั้ยคะว่า มีรายงานบอกว่าภายในปี 2020 พนักงานที่ไม่ทำงานประจำใน อเมริกาจะมีมากถึง 40% พนักงานทั้งหมด
#6 การสร้าง ความประทับใจให้กับพนักงาน (Employee Experiences) คือต่อไปเราจะไม่พูดกันแค่การสร้างความผูกพันกับพนักงานนะคะ แต่เราจะพูดกันว่าจะสร้างความประทับใจ ให้เกิดแก่พนักงานให้พนักได้รู้สึกถึงประสบการณ์ในการทำงานกับเราได้อย่างไร เหมือนการตลาดเวลาขายของเขาจะพูดว่าจะสร้าง Customer Expericencs อย่างไร ในวงการ HR ก็เหมือนกันคะ เราควรจะทรีตพนักงานเป็นลูกค้าของเราเช่นกัน และสร้างประสบการณ์ในการทำงานที่ดีให้กับพนักงาน
#7 การสร้างผู้นำที่มีความเป็นสากล (Global Leader) ผู้นำในอนาคตต้องมีแนวคิดที่เป็นสากล หรือที่เรียกว่า Globality Mind-Set คือสามารถนำเทรนด์ หรือความรู้ในระดับสากลมาปรับใช้กับ งานที่ตัวเองต้องทำได้ นอกจากนี้ผู้นำในอนาคตต้องมี Competency หรือสมรรถนะ ให้สอดคล้องกับโลกที่ปรับเปลี่ยนไป เช่น ความรู้ในเรื่องดิจิทอลต่างๆ การสร้างสัมพันธ์รอบด้าน (360 องศาเลย) เป็นต้น
#8 ให้ความสำคัญกับชุมขน (Community Focus) เทรนด์ที่เกิดขึ้นคือการที่องค์กรจะให้ความสำคัญกับชุมชนมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น ชุมชนด้านสภาพแวดล้อม ด้านการศึกษา โลกร้อน หรืออื่นๆ เนื่องจากองค์กรในปัจจุบันจะไม่ใช่องค์กรที่ทำธุรกิจในปัจจุบันเท่านั้น แต่จะต้องมองในเรื่องความยั่งยืนด้วย HR จึงมีหน้าที่ที่จะทำอย่างไรที่จะให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวและนำมาลิงค์กับการทำงานของพนักงานให้ได้
#9 การใช้ AI ในงาน HR (AI in HR) ที่สำคัญที่สุดคือการนำ AI มาใช้เพื่อช่วยในการตัดสินใจโดยให้ AI ช่วยในการประมวลผลตัวเลขออกมาเป็นผลลัพธ์เพื่อแนะนำแนวทางในการตัดสินใจของ HR ซึ่งคือการทำ HR Analytic ที่กำลังเป็นเทรนด์ที่ฮิตในหมู่ HR แต่อย่าลืมนะคะว่าการที่ HR จะทำการวิเคราะห์ได้ดีต้องมีการ Reskills และ Upskills HR อย่างหนักหน่วงด้วยนะค่ะ
#10 การประเมินผลพนักงานอย่างต่อเนื่อง (Confinuouse Performance Management) การประเมินผลต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใข่ การประเมินประจำปี หรือ ทุกครึ่งปี HR ต้องทำให้การประเมินผลเป็น On-going process ให้ได้ เนื่องจากพนักงานที่เป็นคนเก่งหรือ Talent เขาต้องการการพัฒนาและ Feedback ตลอดเวลา HR ต้องให้ความสำคัญกับการการพัฒนาทักษะของหัวหน้างานในการให้ Feedback การให้ Coaching พนักงาน เป็นต้น
หวังว่าข้อมูลเทรนด์ข้างต้นคงเป็นแนวทางให้ HR ในการนำไปปรับใช้ได้ (แม้ไม่ทั้งหมด) ในความเห็นส่วนตัวสำหรับเมืองไทย เทรนด์ที่น่าสนใจคือ เรื่องการหา Talent แบบ Borrow โดยมีการจ่ายเฉพาะเมื่อจ้างงาน (Pay-on-Demand) ซึ่งการจ้างงานก็ต้องมีความยืดหยุ่นสูง และปรับได้ตามความต้องการขององค์กรและพนักงาน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องนำ AI มาช่วยในการทำงานด้าน HR รวมทั้งการ Reskill และ Upskills พนักงานอย่างเร่งด่วนและหนักหน่วงผ่าน On-Line Training ด้วยคะ