HR หลังโควิด-19 จะเป็นยังไง ?
May 24, 2020Brown-out หมดแรงทำงาน ทำไงดี ?
September 16, 2022คอลัมน์ เอชอาร์ คอร์เนอร์ – ประชาชาติธุรกิจ (สิงหาคม 2565)
โดย พิชญ์พจี สายเชื้อ
คงจำกันได้ว่าหลังโควิดเรามีเทรนด์ใหม่ที่เรียกว่า The Great Resignation คือการที่คนวัยทำงานชิงกันลาออก เนื่องจากมีความต้องการในการทำงานที่ไม่เหมือนเดิม และการมีโควิดทำให้ได้รับรู้ (รสชาติ) รูปแบบการทำงานใหม่ ๆ ที่พอจะกลับไปเหมือนเดิม ก็รับไม่ได้ หรือกระทั่งบางคนค้นพบ Purpose ในการทำงานรูปแบบอื่น (ที่ไม่ใช่การทำงานประจำ)
ตอนนี้มีเทรนด์เกิดใหม่อีกแล้วที่เรียกว่า “The Great Unretirement” ซึ่งเป็นความสนใจส่วนตัวด้วย เพราะใกล้เคียงกับ (อายุ) ตัวเอง โดยทาง Techsauce เว็บไซต์เทคโนฯ ชื่อดัง ได้ให้คำจำกัดความ Unretirement ไว้ว่า
Unretirement คือ การที่ผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณอายุ หรือผู้ที่ใกล้จะเกษียณอายุเลือกที่จะเป็นส่วนหนึ่งของแรงงาน หรือยังคงทำกิจกรรมที่สร้างรายได้และกำไรต่อตนเองต่อไป
ทั้งนี้มีข้อมูลทางสถิติที่น่าสนใจอื่น ๆ อีก เช่น ผลจาก CNBC Survey กล่าวว่า 65% ของคนทำงานที่เกษียณไปแล้วกำลังตัดสินใจจะกลับมาทำงานอีกครั้ง หรือเกือบ 94% ของคนที่ลาออกไปช่วงโควิด (คืออาจไม่ได้เกษียณก็ได้) ก็กำลังตัดสินใจกลับมาทำงานอีก ซึ่ง CNBC วิเคราะห์ว่า
ทั้งนี้เกิดจาก The Great Resignation ทำให้คนเครียดตัดสินใจลาออก แต่เมื่อโควิดเริ่มซาลงก็เกิดปัญหาใหม่ เศรษฐกิจตกต่ำ บวกกับเกิด “ความขาดแคลนคนทำงาน” ทำให้คนที่เกษียณและลาออกเริ่มตัดสินใจกลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ CNBC ยังบอกอีกว่า ตอนที่ออกกันไป 33% ออกเพราะปัญหาสุขภาพ 27% เพราะโควิด อีก 19% แค่ไม่อยากทำงานแล้ว ถึงตอนนี้โควิดซาไป (และ 85% ของคนที่อายุมากกว่า 50 ปีในสหรัฐ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว) ทำให้คนที่ออกกันไปเลยอยากกลับมาทำงานอีก
ซึ่งข้อมูลจากกรมแรงงานสหรัฐก็ให้ข้อมูลในทิศทางเดียวกันว่า ตอนนี้ 1.5 ล้านคนของคนที่จะเกษียณได้กลับมาทำงานแล้ว ซึ่งทาง Director of the Center for Retirement Research ที่ Boston College ได้สรุปสั้น ๆ ว่า “พนักงานที่อายุมาก (หรือเกษียณแล้ว) ได้ตัดสินใจกลับมาทำงานอีก”
ในอังกฤษก็เช่นเดียวกัน ค่าครองชีพและเงินเฟ้อ ทำให้คนเกษียณต้องกลับมาทำงาน ซึ่งทาง Office of National Statistic หรือสำนักงานสถิติของอังกฤษบอกว่า คนที่อายุมากกว่า 50 ปี (ที่ควรเกษียณแล้ว) ยังต้องทำงานอยู่หรือกำลังหางานทำ โดยสถิติบอกว่ามากกว่าครึ่งของคนที่หางานเป็นผู้ชายที่อายุมากกว่า 65 (ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.5% จากเดิม)
ส่วนผู้หญิงเพิ่มขึ้น 6.8% จากเดิม ซึ่งคนเหล่านี้คือคนที่ “กลับ” มาทำงานหลังเกษียณไปแล้ว “ไม่ใช่” คนที่ขยายอายุการเกษียณนะคะ เนื่องจากว่าตอนแรกพวกเขาคิดว่าจะเกษียณพร้อมบำนาญที่เพียงพอที่จะอยู่ได้อย่างสบาย แต่เอาเข้าจริงมาเจอวิกฤติเศรษฐกิจ เงินเฟ้อเข้าก็คิดว่าไม่พอแล้ว กลับมาทำงานดีกว่า !
มีเคสจากอังกฤษ คือ “Dr. James Derounian” ซึ่งกลับมาทำงานหลังจากเกษียณไปได้ 2 ปีบอกว่า “ผมมีแผนจะเกษียณ แต่เงินเฟ้อทำลายแผนนั้นหมดเลย”
โดยเทรนด์นี้สอดคล้องกับโพลของ Rest Less’s Retired Member ที่ว่า 32% บอกว่ากำลังคิดจะกลับไปทำงานหรือได้กลับไปทำงานแล้ว และ 70% บอกว่าพวกเขากลับไปทำงานเนื่องจาก “เหตุผลทางการเงิน”
สรุปสั้น ๆ สำหรับพวกเราในเมืองไทยที่กำลังจะเกษียณหรือเกษียณไปแล้วว่า คงต้องกลับไปดูสถานะทางการเงินอีกครั้งว่าจะเพียงพอรองรับค่าครองชีพที่สูงขึ้น หรือเงินเฟ้อหรือสภาพเศรษฐกิจตกต่ำมั้ย
และถ้า “ไม่” จะมี “แผนสำรองอย่างไร” ไม่ว่าจะเป็นการกลับไปทำงานอีก (จะมีงานให้ทำมั้ย ?) ประหยัดให้มากขึ้น (เงินจะพออยู่ถึงเสียชีวิตมั้ย ?) หรือออมให้มากขึ้นสำหรับคนที่ยังไม่เกษียณ (แค่ค่าใช้จ่ายก็มากเหลือเกิน)
ส่วนในภาครัฐหรือเอกชนก็อยากให้มีแผนรองรับเพื่อช่วยเหลือด้วย เช่น การจ้างงานผู้สูงอายุให้มากขึ้น การขยายอายุเกษียณสำหรับตำแหน่งที่จำเป็น หรือการมีโครงการหรือกฎหมายเกี่ยวกับการออมต่าง ๆ ที่จะช่วยเหลือผู้เกษียณอายุในระยะยาว เป็นต้น
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/WeFlexConsulting
https://www.linkedin.com/company/WeFlexConsulting