การให้วันลาแบบ Unlimited
April 26, 2019เคล็ดลับการหาพนักงาน(แนวใหม่)
April 26, 2019เราได้ยินมาตลอดในเรื่องเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงในเรื่องเทคโนโลยี การใช้ดิจิทอล การใช้ AI หรือการใช้หุ่นยนต์ทำงาน ซึ่งเป็นเทรนด์ในอนาคตที่เลี่ยงไม่ได้แน่ๆ ลองมาดูว่ามัน(อาจ)จะกระทบกับเราในอนาคต(อันใกล้)อย่างไรหรือไม่ ก่อนอื่นท่านทราบไหมคะว่า
- 5% ของงานปัจจุบันที่มีอยู่ จะสามารถใช้คอมพิวเตอร์ทดแทนได้ 100% และ 30% ของงานปัจจุบันที่มีอยู่ จะสามารถใช้คอมพิวเตอร์ทดแทนได้ 60% (แปลว่างานที่มีในปัจจุบันจะหายไปเยอะมากเพราะสามารถทดแทนได้ด้วยคอมพิวเตอร์ และ/หรือหุ่นยนต์ การทดแทนด้วยคอมพิวเตอร์หมายถึงการที่คอมพิวเตอร์สามารถดึงข้อมูลขึ้นมาแล้ววิเคราะห์ผล (จากรูปแบบหรือแพทเทิร์นที่เกิดประจำ) แล้วให้คำแนะนำ หรือออกรายงานได้เลย (โดยไม่ต้องใช้คน))
- ธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ธุรกิจที่ให้บริการด้านการเงิน (แบงค์ ประกัน เป็นต้น) โดยประมาณ 54% ของงานปัจจุบันที่มีอยู่จะหายไป ! ดูตารางประกอบนะคะ
- ตอนนี้แบงค์ RBS ของอังกฤษประกาศใช้ RoboAdvisor แทนคนไปเรียบร้อยแล้ว โดย RoboAdvisor จะทดแทนงานประมาณ 220 ตำแหน่งงานที่เป็นพนักงานที่ต้องพบปะลูกค้า ทั้งนี้เพี่อลดต้นทุนในการทำงานลง โดยลูกค้ารายย่อยที่เงินลงทุนไม่มากจะได้รับบริการออนไลน์จาก RoboAdvisor แทนโดยลูกค้าต้องตอบคำถามก่อนตามรายการคำถามที่ได้รับการออกแบบมา เพื่อทำการวิเคราะห์ พฤติกรรมและ Risk Profile ของลูกค้า หลังจากนั้นลูกค้าจะได้รับคำปรึกษาในการลงทุน เฉพาะลูกค้าที่มีการลงทุนมากกว่า 500,000 ปอนด์เท่านั้น จึงจะได้รับคำปรึกษาจากพนักงานที่เป็นคนค่ะ ซึ่งทาง Regulator ของอังกฤษเชื่อว่าจะมีแบงค์อื่นๆทำแบบนี้ตามมาแน่นอน (เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มาก)
- ภายในปี 2025 บริษัทที่ใช้หุ่นยนต์จะลดต้นทุนเฉลี่ยได้ถึง 16% (เปรียบเทียบกับการใช้พนักงาน)
- ตัวอย่างงานที่จะหายไปในอนาคต ได้แก่
- แคชเชียร์ (เนื่องจากจะมีการใช้เครื่องที่คิดเงินได้เองโดยไม่ต้องใช้พนักงานคิดเงิน ที่เรียกว่า Self-Check-Out ในเมืองไทยก็เริ่มมีแล้วนะคะ)
- เอเย่นต์ท่องเที่ยว (ปัจจุบันคนหาข้อมูลจากเว็บได้ไม่ต้องพึ่งเอเย่นต์เลย)
- นักบิน (จะมีการใช้ Auto Pilot มากขึ้น)
- ตัวแทนขายประกัน (ปัจจุบันคนเข้าอินเตอร์เนทซื้อประกันออกไลน์สะดวกมากไม่ต้องรอนัดเจอตัวแทนเลย)
- นักหนังสือพิมพ์ (เนื่องจากปัจจุบันไม่มีใครอ่านหนังสือพิมพ์กันแล้ว อ่านแต่อีบุ๊ค ออนไลน์ แล้วทุกคนก็ เปิดอินเตอร์เนตก็เช็คข่าวได้ตลอดอยู่แล้ว)
- พนักงานไปรษณีย์ (คนส่งจดหมายน้อยมาก ส่งกันแต่อีเมล์) เป็นต้น
- และตัวอย่างงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นงานชื่อแปลกๆทั้งนั้นคะ (ขออนุญาตใช้ทับศัพท์นะคะ แปลเป็นไทยอาจจะผิดความหมาย) ได้แก่
- Robot Trainer อีกหน่อยต้องมีคนสอนหุ่นยนต์แล้วนะคะ
- VIRTUAL CULTURE ARCHITECT หรือมีสถาปนิกที่ทำหน้าที่ออกแบบวัฒนธรรมที่แท้จริงเพราะพนักงานจะมาจากหลายแหล่งหลายช่องทางมาก จะทำอย่างไรให้มีวัฒนธรรมที่เป็นหนึ่งเดียวได้
- DATA, TALENT & AI INTEGRATOR เนื่องจากในอนาคตเรื่องของข้อมูล, พนักงานและ การใช้ Artificial Intelligence เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับองค์กร องค์กรจึงต้องมีหน้าที่งานที่เป็นคนผสมผสานทั้งสามเรื่องให้เป็นหนึ่งเดียว
ข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเพื่อชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงกำลังใกล้เข้า สิ่งที่ดิฉันอยากฝากไว้สำหรับผู้นำองค์กรในการปรับตัวในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป โดยท่านต้องเข้าใจว่าการใช้หุ่นยนต์หรือ การใช้ AI จะมีผลกระทบต่อองค์กรท่านอย่างไร ในด้านต่างๆเช่น
- งานจะเปลี่ยนไป? (เช่นมีการใช้ AI ในการวิเคราะห์การลงทุน)
- โปรไฟล์พนักงานที่มีจะรองรับงานที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างไร มีทักษะอะไร? (เช่นท่านอาจต้องการนักวิเคราะห์เด็กๆน้อยลง เพราะหุ่นยนต์ทำได้ แต่นักวิเคราะห์ที่มีประสบการณ์สูงๆยังจำเป็นอยู่ เป็นต้น)
- การพัฒนาพนักงานต้องเปลี่ยนไป (ต้องเพิ่มทักษะที่จำเป็นในอนาคต) การจ่ายค่าตอบแทนก็จะเปลี่ยนไปด้วย (จ่ายตามทักษะที่เราต้องการ ไม่ใช่จากงานที่ทำ)
- รูปแบบการจ้างงานอาจเปลี่ยนไป เช่นมีพนักงานประจำน้อยลง (เพราะงานบางงานหุ่นยนต์ทำได้ ไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานฟูลไทม์) พนักงานจะเป็นลักษณะสัญญาจ้างมากขึ้น(เพื่อลดต้นทุน) และพนักงานคนหนึ่งอาจทำงานมากกว่าหนึ่งงานหรือหนึ่งบริษัท (เป็นลักษณะ Freelance) เป็นต้น